สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย มีใบสีเขียวเข้ม ร่องกลางใบเป็นสีแดงอมน้ำตาล มีหนามที่ปลายใบเล็กน้อย ปลูกกันมากในแถบจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี เพชรบุรี ระยอง และลำปาง นิยมปลูกเพื่อจำหน่ายให้กับโรงงานเพื่อแปรรูปเป็นผลไม้กระป๋อง เนื่องจากมีผลขนาดใหญ่ เนื้อมีรสชาติหวานฉ่ำ
พันธุ์สับปะรดปัตตาเวีย มีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น สับปะรดศรีราชา สับปะรดปราณบุรี ลักกะตา พันธุ์ ตาดำตาแดง สับปะรดน้ำผึ้ง ฯลฯ แม้ได้ชื่อว่าเป็นสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียเหมือนกัน แต่ปลูกดูแลในสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เหมือนกัน ทำให้มีลักษณะแตกต่างกันออกไปทั้งด้านขนาดและรสชาติความอร่อย
สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย หรือในไทย มีผู้นำสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียจากประเทศอินโดนีเซียมาปลูกไว้ในพื้นที่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่รู้จักกันทั่วไปใน ทุกวันนี้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์กลายเป็นแหล่งปลูกและแปรรูปสับปะรดที่มากที่สุดของประเทศ
สับปะรดศรีราชา ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2558 รูปร่างกลมรี มีปลายจุกแหลม น้ำหนักผล 1.5-3.5 กิโลกรัม ก้านผลสั้น มีไส้ใหญ่ตาค่อนข้างตื้น เปลือกผิวผลดิบมีสีเขียวคล้ำ ผลสุกมีสีเขียวอมเหลืองอมส้ม เนื้อละเอียดสีเหลืองอ่อน แต่จะเป็นสีเข้มในฤดูร้อน รสชาติหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอม ถูกรสนิยมคนไทย สับปะรดศรีราชาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เกือบทั้งปีมีผลผลิตเข้าตลาดจำนวนมากในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน และเดือนตุลาคม-ธันวาคม
การซื้อขายสับปะรดโดยทั่วไปแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มได้แก่ คุณภาพเนื้อ 1 สับปะรดเนื้อหวานฉ่ำ เน้นคัดผลสวย ลูกย่อม น้ำหนักตั้งแต่ 1.3 กิโลกรัม ป้อนตลาดทั่วไป ส่วนกลุ่มห้างสรรพสินค้านิยมสินค้าเนื้อ 1 เกรดพรีเมียร์ ผลใหญ่น้ำหนัก 1.7 กิโลกรัมขึ้นไป
สับปะรดคุณภาพเนื้อ 2 รสหวานปานกลาง ขนาดผลใหญ่น้ำหนักเฉลี่ยตั้งแต่ 1.5-1.7 กิโลกรัม เป็นที่ต้องการในกลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม
กลุ่มเนื้อ 3 ซึ่งเรียกว่า สับปะรดเนื้อแกง เพราะมีรสอมเปรี้ยวอมหวาน เหมาะสำหรับแปรรูปเป็นอาหาร สำหรับสับปะรดเนื้อ 3 หากเก็บเอาไว้สักระยะ ก็จะมีรสหวานเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับสับปะรดภูเก็ต